เครื่องเคลือบร้อนและเครื่องเคลือบเย็นต่างกันอย่างไร

, , , , ,

เครื่องเคลือบเอกสารมีหลายแบบ หลายราคา หลายคุณสมบัติ แบบไหนที่เหมาะกับตัวคุณ

เครื่องเคลือบเอกสาร หรือเครื่องเคลือบบัตรที่นิยมใช้และเรียกกัน เป็นอุปกรณ์สำนักงานพื้นฐาน ที่ออฟฟิศขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งครัวเรือนก็ยังมีใช้ นอกจากจะช่วยเคลือบให้สวยงามแล้ว เครื่องเคลือบยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีก เช่น เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน เช่น ทนต่อแสงยูวี UV และทนความชื้น,น้ำ นอกจากนั้นเครื่องเคลือบบางรุ่นก็ยังสามารถเคลือบฟอยล์ให้มีสีสันสวยงามได้ด้วย

การซื้อเครื่องเคลือบจำเป็นต้องพิจารณาอะไรบ้าง คนส่วนใหญ่พิจารณาจากราคาเป็นหลัก เพราะฟังก์ชั่นการใช้งานของคนทั่วไป คือ เคลือบพลาสติกแข็ง หรือที่เรียกกันว่า เคลือบร้อนนั่นเอง เพราะคนทั่วไปไม่ทราบว่าเครื่องเคลือบก็สามารถเคลือบรูปแบบอื่นได้ นอกจากเคลือบร้อน ก็คือ เคลือบเย็นนั่นเอง เคลือบเย็นเป็นการเคลือบพลาสติกใส ซึ่งโดยบางคนก็คิดว่าไม่จำเป็น ทำเองก็ได้ แต่ใครจะรู้ว่าเครื่องเคลือบนี้เป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งที่ทำให้การเคลือบพลาสติกใสรวดเร็วขึ้นและสวยงามเรียบร้อย ส่วนอีกฟังก์ชั่นที่พิเศษและเพิ่มขึ้นมา คือ เคลือบฟอยล์ หากคนที่จะใช้ฟังก์ชั่นนี้ จำเป็นต้องเลือกเครื่องที่มีฟังก์ชั่นนี้ เพราะ ถ้าเป็นเครื่องเคลือบปกติจะมีแค่ฟังก์ชั่นเคลือบร้อนและเย็นเท่านั้น เครื่องเคลือบที่สามารถเคลือบฟอยล์ได้ ราคาจะสูงขึ้นอีก 1 ระดับ

ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องเคลือบ ควรพิจารณาจาก

1. จุดประสงค์การใช้งาน

      1.1 เครื่องเคลือบบัตรแบบเคลือบร้อน ใช้กับงานเคลือบด้วยแผ่นพลาสติกผ่านความร้อนจากเครื่องเคลือบ เหมาะสำหรับการเคลือบบัตร                  สมาชิก(กระดาษ) รูปภาพ เมนูอาหาร แผ่นป้ายต่างๆ เป็นต้น       

      1.2 เครื่องเคลือบบัตรแบบเคลือบเย็น เป็นการช่วยเคลือบพลาสติกที่มีกาวด้านหลัง (สติกเกอร์ใส) แนบติดชิ้นงาน ให้เรียบและรวดเร็วขึ้น เหมาะสำหรับใช้กับงานเคลือบปกหนังสือ ปกสมุด โฟโต้อิงค์เจ็ท สติกเกอร์สลากสินค้า เคลือบชิ้นงานให้ดูสวยงาม เงางาม        

         1.3ครื่องเคลือบบัตรแบบเคลือบฟอยล์ ใช้สำหรับแผ่นเคลือบฟอยล์ให้ติดกับกระดาษ หรือการ์ดต่างๆ เช่น การ์ดแต่งงาน หรือใช้ตกแต่งชิ้นงานอื่นๆให้สวยงามมากขึ้น

2. วัสดุของเครื่องเคลือบ

ต้องการแบบพอใช้งานได้ ก็เลือกแบบพลาสติก หรือต้องการแบบคงทนตกได้ ไม่ต้องกลัวแตก ก็เลือกแบบเหล็ก เครื่องเคลือบบางรุ่นสามารถปรับอุณหภูมิหรือความหนาของพลาสติกได้

3. ราคาของเครื่องเคลือบ

จะขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นการใช้งาน และวัสดุของเครื่องเคลือบ ถ้าเครื่องเคลือบที่เคลือบได้ทั้ง 2 แบบ ราคาก็จะสูงขึ้น เคลือบฟอยล์ก็จะแพงขึ้นไปอีก เครื่องเคลือบแบบพลาสติกจะถูกกว่าแบบเหล็ก

จากปัจจัยข้างต้น ทำให้เห็นว่า เราไม่ควรเลือกเครื่องเคลือบจากราคาเป็นหลักอย่างเดียวนะคะ ควรพิจารณาจากฟังก์ชั่นการใช้การงานด้วย คุณสมบัติอื่นๆ ของเครื่องเคลือบที่ต่างกันในแต่ละรุ่น ก็จะมีอีกหลายหลายทั้ง หน้ากว้างของเครื่องเคลือบ , ความเร็วในการเคลือบ, ความหนาของแผ่นพลาสติกที่เข้าเครื่องเคลือบได้, ปุ่มกดถอยหลังเมื่อเคลือบแล้วติด ยิ่งราคาถูก ก็จะลดคุณสมบัติบางประเภทลงไปค่ะ

ก่อนซื้อก็พิจารณากันให้ดีนะคะ เครื่องเคลือบ Office Pro เราเลือกคุณสมบัติมาให้เหมาะกับการใช้งาน ในราคาที่คุ้มค่าแน่นอนค่ะ เข้าไปเลือกชมสินค้ากันได้นะคะ

https://www.olympiathai.com/products/office-automation/laminator/